ห่วงขานกฟินซ์7สี ตามมาตรฐานสากล
มาตรฐานการพัฒนาสายพันธุ์นกฟินซ์7สี ตามสากลของสมาพันธุ์นกวิทยาโลกของยุโรป C.O.M World Ornithological Confederation ซึ่งมีสมาชิกเข้าร่วม 29ประเทศ
ได้มีการกำหนดเป็นกฎหมาย ให้นกที่เพาะพันธุ์ต้องสวมใส่ห่วงขา โดยเฉพาะห่วงขาแบบปิดที่บันทึก รหัสตัวอักษร เป็นข้อมูลนก และ กำหนดกฎกติกา ว่า นกที่เข้าร่วมประกวดได้ ต้องมีห่วงขาแบบปิดที่มีรหัสตัวอักษร และขนาดห่วง ต้องเหมาะสมกับขนาดของขาตามที่กำหนด และต้องไม่สามารถถอดเข้า -ออกได้
ส่วนในประเทศไทยเอง ก็ได้นำมาตรฐานเรื่องห่วงขาแบบปิดของยุโรป นำมาใช้ แต่ยังใช้ในวงจำกัด คือเฉพาะกลุ่มที่เน้นพัฒนาสายพันธุ์ประกวดเป็นหลักเท่านั้น ซึ่ง ใช้ห่วงขาอลูมิเนียมแบบห่วงปิด
C.O.M ใช้สีห่วงห่วงขานกฟินซ์7สีอยู่6สี (ตามโทนสีที่กำหนด) และหมุนเวียนเปลี่ยนสีไปตามปี ตามรูป
สีม่วง โทนสี RAL 4008 สีน้ำตาล โทนสี RAL 8015 สีน้ำเงิน โทนสี RAL 5019 สีแดง โทนสี RAL 3002 สีดำ โทนสี RAL 9005 สีเขียว โทนสี RAL 6019
นอกจากนี้ Breeder หรือนักพัฒนาเพาะพันธุ์ สายพันธุ์นก ยังใช้รหัสตัวอักษรบนห่วง เพื่อเป็นการใช้บันทึกข้อมูลการจัดการเข้าคู่ผสมพ่อแม่พันธุ์ ช่วยบันทึกข้อมูลสายพันธุกรรม และประวัติของนกตัวนั้นๆด้วย
ขนาดห่วงขานกฟินซ์7สี ตามมาตรฐาน
ชนิดอลูมิเนียม แบบห่วงปิด
ขนาดห่วงขา ขึ้นอยู่กับอัตราการเติบโตของลูกนกกับขนาดแหวนที่ใช้ โดย จะเริ่มใส่ห่วงขา ในลูกนกอายุ 7-10 วัน หรือ ช่วงเห็น ขนหนามขึ้นแล้ว
ตย. เส้นผ่านศูนย์กลาง ห่วงขา
2.7, 2.9 มม. ใช้กับมาตรฐานในยุโรป
2.8, 3.0 มม. ใช้กับมาตรฐานในประเทศไทย
หาก รีบสวมในช่วงลูกนก ช่วงอายุน้อยกว่านี้ ห่วงอาจหลวมและหลุดออกมาเองได้ เพราะขาเล็กเกินไป และถ้าอายุมากเกิน ถึง2อาทิตย์ หรือ ช่วงขนพายขึ้นแล้ว อาจสวมห่วงไม่ได้เลย เพราะขาใหญ่เกินไป
หาก ห่วงมีเส้นผ่านศูนย์กลาง มากเกินไป คือ เกิน 3.0มม.ขึ้นไป จะหลวมเกินไป และสามารถสวมใส่ขาลูกนกลงรัง, นกโตแล้ว และสามารถถอดเข้า-ออกได้
#ชมรมผู้เพาะเลี้ยงนกฟินซ์7สีแห่งประเทศไทย #ชมรมGFBT Writer by : KNoon GFBT0008 19/3/65